GENIUS Act: กฎใหม่สเตเบิลคอยน์เปลี่ยนการเงินโลก
เมื่อวอชิงตันตัดสินใจได้สักที
หลังจากที่เห็นการเมืองเรื่องคริปโตวุ่นวายมานาน การผ่านกฎหมาย GENIUS Act ก็เหมือนกับการเห็นแพนด้าผสมพันธุ์สำเร็จ - เป็นไปไม่ได้แต่ก็เกิดขึ้นได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินจะมาอธิบายว่าทำไมเอกสารกฎหมาย 73 หน้าฉบับนี้ถึงทำให้ธนาคารต่างพากันเครียด
ปาฏิหาริย์ทางการเมือง (หรือวิธีทำให้คริปโตรวมใจ)
กฎหมายนี้ทำสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ คือทำให้เดโมแครตและรีพับลิกันเห็นพ้องต้องกัน Dante Disparte นักกลยุทธ์ของ Circle เผยเคล็ดลับว่า การนำเสนอสเตเบิลคอยน์เป็นเครื่องมือทางการทูตช่วยได้ เพราะไม่มีอะไรที่คนอเมริกันชอบมากกว่าการส่งออกมาตรฐานการเงินของตน
ความท้าทายของธนาคาร
ที่น่าสนใจคือ ธนาคารดั้งเดิมสามารถออกสเตเบิลคอยน์ได้ แต่ต้อง:
- สร้างนิติบุคคลแยก
- ถือครองเงินสำรอง 100%
- ไม่สามารถนำเงินไปให้กู้ได้
เหมือนกับขอให้ฉลามกลายเป็นมังสวิรัติ ส่วนบริษัท fintech อย่าง Circle กำลังยื่นขอใบอนุญาตอย่างรวดเร็วดุจคนนอกที่แหกกฎสมาคม
เกมหมากรุกระดับโลก
จุดเด่นที่สุดของกฎหมายนี้คือ ให้อำนาจกระทรวงการคลังกำหนดกฎเกณฑ์ในระดับโลก นี่คือกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด เพราะแทนที่จะใช้ CBDC อเมริกากำลังใช้กฎระเบียบสเตเบิลคอยน์เป็นเครื่องมือสร้างอิทธิพล
สิ่งที่จะตามมา
- สำหรับผู้บริโภค: มีทางเลือกมากขึ้นในการชำระเงิน
- สำหรับตลาด: อุตสาหกรรมสเตเบิลคอยน์มูลค่า 120,000 ล้านเหรียญจะได้รับการรับรอง
- สำหรับนักลงทุน: โอกาสใหม่ๆ ที่เกิดจากความพยายามปรับตัวของสถาบันการเงิน
QuantGambit
ความคิดเห็นยอดนิยม (4)
เมื่อวอชิงตันตัดสินใจทำอะไรสักที
หลังจากที่ดูรัฐสภาสับสนกับการควบคุมคริปโตเหมือนเด็กฝึกงานเมากับ PowerPoint มานาน กฎหมาย GENIUS Act ผ่านพอดี เหมือนดูแพนด้าผสมพันธุ์สำเร็จ - เป็นไปไม่ได้แต่สุดยอดมาก!
ธนาคารกับคริปโต: ศึกชิงอำนาจ
ตลกที่สุดคือข้อกำหนดให้ธนาคารออก stablecoin ได้ แต่ต้องทำตัวเหมือนเชฟวีแกน - ห้ามเล่น fractional reserve แถมต้องมีเงินสด 100% ส่วนบริษัท fintech อย่าง Circle นี่แทบจะกระโดดเข้าร้านอาหารหรูด้วยรองเท้าผ้าใบเลย
เกมกลลวงระดับโลก
สกปรกที่สุดคืออเมริกาพยายามส่งออกกฎระเบียบ stablecoin ของตัวเองไปทั่วโลก เคยเห็นการประชุม G20 แล้วตาแทบกระตุก นี่คือการเคลื่อนไหวแบบมาเคียเวลเลียนสุดๆ!
ใครคิดว่าแบงก์จะชนะหรือคริปโตจะคว่ำบาตร? คอมเมนต์ด้านล่างเลยจ้า!
When Sharks Go Vegan
The GENIUS Act just turned Wall Street into a culinary comedy show. Imagine telling JPMorgan they can issue stablecoins… but only if they act like a monk with a spreadsheet! 100% reserves? No lending profits? This is like asking Gordon Ramsay to run a salad bar.
The Real Winners
While bankers pop antacids, Circle and friends are crashing the financial country club in hoodies - and honestly? We’re here for it. Treasury’s global power play is the cherry on top: move over CBDCs, America just weaponized stablecoin regulation!
P.S. To my hedge fund buddies: start coding those arbitrage bots now. The regulatory purgatory party is over.
Banker vs. Blockchain
Die GENIUS Act ist da – und die Banken schwitzen wie beim Weihnachtsmarkt im August.
Vegan-Sharks?
Jetzt dürfen Banken Stablecoins ausgeben… wenn sie sich als vegane Pastry-Chefs verkleiden. 100 % Reserve? Kein Kreditgeschäft? Na klar – nur nicht mit echten Zinsen.
Dollar-Diplomatie
Die USA exportieren ihre Finanzstandards wie Bier: mit Stolz und einem Hauch von Machtpolitik. G20-Meetings? Jetzt sind sie auch auf dem Plan.
Was kommt jetzt?
Für mich: neue Arbitrage-Möglichkeiten. Für euch: mehr Zahlungsoptionen ohne “Transaktion wird überprüft”-Horrors.
Folgt den Anreizen – das sagt mehr als jede Whitepaper-Lüge.
Ihr glaubt wirklich, dass die Banken das überleben? 🤔 Kommentiert ruhig – wer gewinnt hier wirklich?
Quand les banques tentent de créer des stablecoins comme des croissants… on dirait que la Bourse s’est éveillée après un déjeuner trop riche ! Les réserves à 100 % ? Mais non, c’est du thé au lieu d’or ! Et le « chain-drinking » ? C’est plutôt un ballet avec une paire de baskets… Qui croit encore que l’IA comprend mieux les fuites que le Bitcoin ? #StablecoinOrPas ?
