จากผู้บริหารสู่คนขับรถ

การล่มสลายจากเสถียรภาพ

ฉันไม่ค่อยเขียนเรื่องโศกนาฏกรรมส่วนตัว—งานของฉันคือวัดความเสี่ยง ไม่ใช่เล่าเรื่องเศร้า แต่เคสนี้จากเหอเป่ย์ทำให้ฉันหยุดนิ่ง

ชายคนหนึ่งที่เคยบริหารพนักงาน 30 คนในโรงงานแปรรูปถ่านหินที่ฮานดา มีรายได้เดือนละ 9,000 หยวน (ประมาณ £1,000) มีชีวิตไร้หนี้ สุขภาพดี เครื่องหมายของความสำเร็จอย่าง Audi และบ้านที่มั่นคง—ตอนนี้ทำงานขับรถให้ผู้โดยสารกว่า 14 ชั่วโมง เพื่อรับเงินแค่วันละ \(300 เท่านั้น จากการขาดเงินหลายล้านดอลลาร์จากการเทรดคริปโตแบบมีเลเวอเรจ และไม่สามารถชำระหนี้รวมกว่า \)450,000 USD โดยอาศัยห้องเช่าราคาเพียง 600 หยวน/เดือน มีห้องน้ำส่วนตัวเป็นเครื่องหมายเดียวของความภาคภูมิใจ

ใช่: มีชีวิตไร้หนี้ — การพังทลายครั้งนี้ไม่ใช่อันตรายจากความยากจน เป็นเพราะ ความมั่นใจ เปลี่ยนเป็นพึงพอใจจนกลายเป็นแรงผลัก

ไฟไหม้ช้า ๆ จากเลเวอเรจ

ขอชัดเจน: ฉันไม่ได้ต่อต้านการใช้เลเวอเรจ ในโมเดลควอนต์ของฉันที่ CoinDesk เราใช้เลเวอเรจระดับ 15x–25x โดยมี stop-loss เข้มงวด และทดสอบมากกว่าแปดปี

แต่นี่? เป็นสงครามทางจิตใจภายใต้ม่านของการวางแผนกลยุทธ์

เขาเริ่มจากซื้อขายตราไปรษณีย์ในช่วงต้นปี 2010 เพียงพอให้อารมณ์ดีเมื่อได้อะไรมาสองหมื่นบาท จากนั้นมุ่งไปหา Bitcoin ในปี 2020 ก่อนจะขยายไปยังเหรียญรองและสัญญาซื้อขายแบบ 10x–100x

“ฉันไม่ลงหมดเลย” เขาพูดในคลิป “เหมือนคมกรinded กัดเบาๆ”

นี่คือวิธีที่คนจำนวนมากสูญเสียทุกอย่าง—not จากเหตุระเบิดครั้งใหญ่อย่างเดียวแต่มากจากการเชื่อมั่นว่าตนเองสามารถเอาชนะแรงโน้มถ่วงได้อย่างสมบูรณ์

และแน่นอน—เขาบอกตรงๆ: ไม่มี stop-loss เขาเคยตั้งไว้อยู่แล้ว…แต่มักยกเลิกกลางทาง เพราะคิดว่า “ตลาดอาจฟื้นกลับมา” Classic sunk-cost delusion

สี่ครั้งกู้เงิน สู่เหวลึกหนึม

• 2020: สูญเสียเกือบหมื่น → กู้ผ่าน Alipay Jiebei + เพื่อน = พยายามฟื้นครอบคุมยอดรวมอยู่ที่สองหมื่นมูลค่า (พ่อแม่นำเสนอ)
• 2021: อีกรอบ → กู้เพิ่มเติมสามหมื่นครึ่ง → สูญหายใหม่อีกครา
• 2023: พาเหร็ดบ้านของพี่สาว (ขนาดใต้งานไม่มากกว่า7เมตร) มูลค่าห้าหมื่นครึ่ง → เอาไว้ออกดอกเบี้ยชั่วคราว—but guilt ก็กดเข้ามาจนแทบตาย
• ปลายปีแรกของปี24: กู้จำนองบ้านตนเอง → กู้เงินดอกเบี้ยสูง (มากถึง35% /ป.ศ.) → เพิ่มน้ำหนักหนี้สะสมเกินล้านดอลลาร์

ทุกครั้ง? เรื่องโกหกเดียวกัน: “รอบนี้จะแตกต่าง” The cycle repeat like clockwork across markets—from Dubai real estate traders to Reddit scalpers in Berlin. And when someone tells you they’re saving money while borrowing more… that’s not survival; it’s active self-destruction under optimism’s disguise.

ทำไมความเมตตาบางครั้งก็อาจล้มเหลว? The community response? Cooler than expected. KOL Liangxi announced he’d fund this man with ¥55K upfront plus ¥6K/month living support for one year—to prevent relapse into trading. The intent? Pure empathy—he knows what it feels like being on margin edge-of-the-cliff too. But here’s my concern: a contract trader giving aid to someone still addicted? based on emotional need? can that really break dependency loops? a single tweet can’t rewrite trauma or dopamine circuits built through repeated losses. The fastest way back from ruin isn’t money—it’s rewiring your brain’s reward system using data-driven boundaries.*The only real safety net is discipline enforced by code—not compassion alone.We must teach people how loss behaves mathematically before teaching them how to trade.