ดิจิทัลกับทองคำ
ความแตกต่างที่ซ่อนเร้นระหว่างความหายากดิจิทัลและกายภาพ
ผมใช้เวลาห้าปีวิเคราะห์โปรโตคอลบล็อกเชน ในแฟลต Notting Hill พร้อมช้อนชาเขียว เพื่อรักษาความเฉียบคมเมื่อตลาดผันผวน ผมขอเจาะประเด็น: Bitcoin และทองคำมักถูกเปรียบเทียบว่า ‘ทองคำดิจิทัล’ แต่ระบบการผลิตของพวกมันต่างกันมาก
การขุดทอง? เป็นกระบวนการแบบเก่า: ขุดจากเขา สู้กับใบอนุญาต และจัดการสระของเสีย—เหมือนอุตสาหกรรมยุคโบราณที่ใช้เวลานาน การขุด Bitcoin? เป็นการแข่งขันระหว่างโค้ดกับฟิสิกส์: แก้สมการเข้ารหัสโดย ASIC ใช้พลังงานไฟฟ้า มันไม่ใช่ธรณีวิทยา… มันคือคอมพิวเตอร์
และไม่ใช่แค่นัยหมายเชิงกวี—มันกำหนดโปรไฟล์ความเสี่ยง, รูปแบบรายได้, และแม้แต่ความยั่งยืน clear
การได้เปรียบที่ปรับขนาดได้อย่างไม่มีขอบเขต
นี่คือจุดที่น่าสนใจ: การขุด Bitcoin มีธรรมชาติด้าน ไดนามิก โดยธรรมชาติ หากผู้ผลิตทองวางแผนตามสำรวจทางธรณีวิทยา (แม้มีอัตราสำเร็จแค่ ~20%) ผมเฝ้า dõiการเปลี่ยนแปลงของแฮชเรตแบบเรียลไทม์ผ่านแดชบอร์ด Chainalysis
การปล่อย ASIC เครื่องใหม่แต่ละรุ่นมักทำให้เกิด ‘วงจรเหยือก ASIC’ — การแข่งขันไร้หยุดเพื่ออัปเกรดก่อนฮาร์ดแวร์กลายเป็นเก่า เมื่อประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น พลังงานลดลงเหลือแค่ 20 W/Th (จากเดิม 100 W/Th ในปี 2018) ส่งผลให้มีเศรษฐศาสตร์ที่ดีกว่า — แต่มีแรงกดดันในการลงทุนตลอดเวลา
ในขณะเดียวกัน การทำเหมืองทองวางแผนหลายส десяวก่อนหน้า และสามารถประกันราคาไว้ได้อยู่แล้ว ในขณะที่ผู้ขุด Bitcoin จะต้องตอบสนองความผันผวน และ เศรษฐกิจการแข่งขันรายวัน clear
เส้นทางรายได้อื่นๆนอกเหนือจากเหรียญใหม่
คนทำเหมืองทองได้เงินแค่อย่างเดียว จากการขายโลหะผสม อธิบายง่ายๆ
แต่นักขุด Bitcoin? เราได้วางแผนสองทาง:
- BTC ใหม่วางตลาด (จะลดลงตามเหตุการณ์ Halving)
- เงินค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม (จะกลายเป็นหลักหลังทะเบียนเหรียญครบ21ล้าน)
โมเดลอายุยาวแบบสองทางช่วยลดพึ่งพาเฉพาะราคาเหรียญ — เป็นประโยชน์สำคัญเมื่อมวลรวมใกล้มูลค่าจำกัดแล้ว
และตรงนี้หลายคนแปลกใจ — เราเรียนรู้นำพลังงานความร้อนเหลือใช้ออกมาขายแล้ว เช่นหนึ่งบริษัทน้ำหนักในสหรัฐฯ พาวเวอร์ระบบโรงเรือนเกษตรกรจำนวนมากโดยใช้อากาศเย็นจากรอบเครื่อง Mining พืชผลสะอาด + การนำกลับมาใช้งาน = สไตล์ชนะ-ชนะ
clear compare กับเหมืองทองซึ่งปล่อยสารพยาธิตามลำธารหรือทำลายป่าเพื่อเข้าถึงแหล่งทรัพยากร
LynxCharts
ความคิดเห็นยอดนิยม (3)
비트코인은 진짜 ‘디지털 금’이야
금광부는 산을 파고 허가 받는 데 10년 걸리는데, 비트코인 광부는 하루 만에 업그레이드해도 쫓아오지 못해. ASIC 휠 돌리는 게 다인데… 이건 경기 아닌가?
전기로 산을 파는 시대
금은 지구를 갉아먹고, 비트코인은 버려지는 전기를 다시 쓰잖아. 미국 한 곳에서 광산 열로 온실 가꾸고 있더라고. 이게 말도 안 되나요? 아니면 더 똑똑한 거죠?
수익원 두 개면 위기에도 버티지
금광부는 금 팔면 끝. 비트코인 광부는 새 코인 + 수수료까지! 2100만 개 넘으면 수수료로 살아남으려고 애쓰는데, 정말 미래 지향적이라니까요.
너무 잘 나가서 걱정되는 건… 혹시 우리 집 수도꼭지 물도 디지털 화폐로 바꿀까? 😂 댓글 달아봐요!你们咋看？
數位挖礦：比金礦還會搞事
誰說挖礦就該是灰頭土臉？金礦還在靠地圖找山頭，我們的Bitcoin挖礦早就在用『算力打怪』了！
ASIC哈希輪子轉不停
別人家的挖礦要等二十年才出產，我們這邊一顆新晶片上路，瞬間全場開跑——不是跑腿，是跑哈希值！效率從100W/Th砍到20W/Th，連電費都省到想哭。
熱能變溫室，綠能真會玩
最神的是：廢熱不丟掉，拿去養菜！美國有個矿場直接蓋了整座溫室網，這操作根本是『把虧損變生意』。
比起金礦坑，我們乾淨多了
人家挖金還要破生態、清森林、排毒水；我們只管插電、接風能、抓廢氣——地點隨便換，傷害零遺留。誰才是未來之王？
你們覺得：是老派金匠還是賽博挖礦俠？評論區開戰啦！
Đào mỏ số vs đào mỏ vật lý
Cái này không phải so sánh kiểu ‘vàng hay BTC’, mà là cuộc chiến giữa tương lai và quá khứ!
Bitcoin mining? Chỉ cần code + điện + máy ASIC – còn vàng thì phải đục núi, xin phép, rồi… chờ cả chục năm mới thấy tiền.
Tốc độ ‘điên rồ’ của ASIC
Mỗi lần ra chip mới là đua như… chạy marathon trên vòng quay hamster! Ai chậm là mất tiền ngay.
Nhưng đổi lại: hiệu suất giờ chỉ còn 20W/Th – thấp hơn cả bóng đèn LED!
Tiền từ đâu?
Vàng chỉ bán vàng. BTC thì có hai nguồn: coin mới + phí giao dịch – kiểu như vừa nhận lương vừa làm thêm!
Đáng kinh ngạc nhất: tận dụng nhiệt thừa để sưởi nhà kính ở Mỹ – xài hết công suất mà chẳng hại môi trường!
So với đào vàng gây ô nhiễm rừng và sông nước? Chẳng cần nói nhiều…
Tương lai xanh hơn?
Không cần chiếm đất hay phá rừng – chỉ cần nối vào điện gió thừa ở Scotland hoặc khí thải ở Texas.
Tương lai không phải là chuyện ‘đào’ nữa – mà là chuyện ‘tái chế’ năng lượng!
Các anh em nghĩ sao? Đào BTC có đáng sợ như người ta nói không? Comment ngay nào!
